วันนี้ vauro เราจะพาทุกคนมารู้จักกับเมนูโบราณกัน เพราะหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์เราคือ อาหาร ตั้งแต่การรับประทานแบบดิบ ปรุงให้สุกด้วยการใช้ไฟ แต่งเติมรสชาติด้วยเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศ สรรค์สร้างจนกลายมาเป็นเมนูมากมายหลายหลากที่น่ารับประทานในปัจจุบัน แต่รู้หรือไม่ว่าบางเมนูที่เคยเห็น ได้ยินชื่อ และลิ้มรสมาแล้ว เป็นเมนูที่ถูกคิดค้นมานานกว่า 400 ปี หรือบางเมนูก็มีอายุมากถึง 6,000 ปีเลยทีเดียว จะใช่เมนูที่เคยรับประทานหรือไม่ เรามาเริ่มนับถอยหลังจากเมนูที่ย้อนกลับไปไม่ไกลนัก ไปจนถึงเมนูที่มีอายุยาวนานที่สุดกันเลย
แกง ประมาณ 2,600 ถึง 2,200 ปีก่อนคริสตกาล
เมื่อพูดถึงอินเดียทุกคนนึกถึงอะไรกัน หนึ่งในนั้นคาดว่าต้องเป็นเมนูแกงอย่างแน่นอนเมนูอาหารที่มีกลิ่นหอมนี้ มีส่วนผสมมาจากเครื่องเทศและสมุนไพรเช่น ยี่หร่า ขมิ้น พริกไทย ผักชี กาลามาซาร่า ผงกะหรี่ ประวัติความเป็นมาของกรรมวิธีการทําแกงนี้ย้อนกลับไปกว่าสี่พันปีในอารธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ ผู้คนมักใช้ครกหินและสาก บดเครื่องเทศจําพวกยี่หร่าและมัสตาร์ดอย่างประณีตเช่นเดียวกับการขุดค้นที่ฮารับปาและโมเฮน โจดาโร ก็พบเศษเครื่องปั้นดินเผาที่มีร่องรอยของขมิ้นและขิง ซึ่งอยู่ในระหว่างสองพันหกร้อยปีถึงสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล นอกจากนี้ในจารึกของชาวสุเมเรียนที่ยังหลงเหลืออยู่เมื่อหนึ่งพันเจ็ดร้อยปีก่อนคริสตกาล ก็ได้มีการกล่าวถึงสูตรอาหารที่คล้ายกันว่า เนื้อในน้ำเกรวี่เผ็ด เสิร์ฟพร้อมขนมปังและในตําราอาหารแอดดิคัสศตวรรษที่สี่นั้นก็กล่าวถึงอาหารที่ทําจากเนื้อสัตว์มากมาย ซึ่งปรุงในลักษณะเดียวกันโดยใส่ส่วนผสม เช่น ผักชี น้ำส้มสายชู สาระแน ผงยี่หร่าเป็นต้น
เค้ก ประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล
ไม่น่าเชื่อว่าเค้กเมนูของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในทั่วทุกมุมโลกจะเป็นเมนูอาหารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่อารยธรรมอียิปต์โบราณ ซึ่งเดิมทีนั้นเค้กเป็นเมนูที่สร้างสรรค์มาจากชาวอียิปต์โบราณด้วยการทําขนมปังไร้เชื้อที่อบโดยหินกรมและเพิ่มรสหวานด้วยการทานน้ำผึ้ง ซึ่งมาดูแบบนี้ก็เหมือนกับว่าเค้กและขนมปังแทบจะไม่แตกต่างกันใช่ไหม? แต่นักประวัติศาสตร์ได้ตั้งทฤษฎีในการแบ่งแยกความแตกต่างระหว่างสองอย่างนี้ ได้จากคําในสมัยกรีกโบราณว่า Pargus หมายถึงใช้เรียกขนมหวานที่มีขนาดเล็กกว่า ลักษณะเหมือนขนมปังที่อัดแน่นไปด้วยถั่วและน้ำผึ้งและซาทูร่าใช้เรียกเค้กหวานที่หนักกว่า ส่วนคําว่าเค้กมีที่มาจากภาษานอร์ทว่า gaga นั่นเอง
แพนเค้ก ประมาณ 3,300 ปีก่อนคริสตกาล
แพนเค้กอาหารเช้าที่มักรับประทานคู่กับผลไม้ช็อกโกแลต น้ำเชื่อมและท็อปปิ้งอื่นๆ ซึ่งชื่อเรียกนี้ก็ตรงตามกรรมวิธีการทําคือ การปรุงเค้กบางๆให้สุกด้วยกระทะ การตามรอยประวัติศาสตร์ของเมนูนี้เราต้องย้อนกลับไปหา มัมมี่น้ำแข็งหรือ Otzi the lceman ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงประมาณสามพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล นักประวัติศาสตร์เปิดเผยว่าจากการวิเคราะห์ร่างกายของ Otzi ได้เปิดเผยข้อมูลมากมายเกี่ยวกับอาหารของยุคหินใหม่ โดยอาหารมื้อสุดท้ายของเขาน่าจะประกอบไปด้วยเนื้อแพะภูเขาและเนื้อกวางแดงพร้อมกับแพนเค้กข้าวสาลีไอคอน ส่วนชาวกรีกโบราณเองก็นิยมรับประทานแพนเค้กกันอย่างแพร่หลาย พวกเขาปรุงแพนเค้กบนเตาดินเผาบนกองไฟ โดยผลงานของนักกวีแมนเนียสและแคลตินูสในทศวรรษที่ห้าก่อนคริสตกาลก็พบว่ามีการกล่าวถึงแพนเค้กที่ทําจากแป้งสาลีและน้ำมันมะกอก เสิร์ฟพร้อมนมเปรี้ยวหรือน้ำผึ้งและมารับประทานเป็นอาหารเช้าเช่นเดียวกับในปัจจุบัน
ทามาเล่ (Tamales) ประมาณ 5,000 ปีก่อนคริสตกาล
ทามาเล่เป็นอาหารเมโสอเมริกายอดนิยมที่ปรากฏครั้งแรกประมาณแปดพันถึงห้าพันปีก่อนคริสตกาล ก่อนจะได้รับความนิยมในหมู่ชาวโอเม็ก ชาวทอนเทกและชาวแอสเทกและชาวมายา ทามาเล่ทําจากมาร์ซาหรือแป้นโดที่ทําจากเมล็ดข้าวโพดแช่น้ำปูนใส สอดไส้ด้วยกระต่ายสับ ไก่งวง กบ ปลา นกฟลามิงโก้ ไข่ ผลไม้และวัตถุดิบอื่นๆตามต้องการ ห่อด้วยเปลือกข้าวโพดหรือใบตองก่อนจะนําไปนึ่ง มักใช้เป็นเสบียงสําหรับนักเดินทางและทหาร เวลาออกเดินทางไกลหรือเดินทัพนั่นเอง โดยหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทามาเล่ถูกค้นพบจากอักษรอียิปต์โบราณของชาวมายาที่กล่าวถึงเมนูนี้ไว้บนเครื่องปั้นดินเผาเป็นจํานวนมาก ซึ่งมีอายุย้อนไปประมาณคริสต์ศักราชที่สองร้อยถึงหนึ่งพันและในปัจจุบันเมนูนี้ยังรับประทานกันอย่างแพร่หลายทั่วเม็กซิโก อเมริกากลาง อเมริกาใต้สหรัฐอเมริกาหรือแม้แต่ฟิลิปปินส์
สนับสนุนการจัดทำโดย wing1688