หากใครชอบเดินดูผักผลไม้ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต หรือใครที่เป็นสายผลไม้ ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาของผลไม้นั้น นับวันจะมีราคาที่สูงขึ้น ปัจจัยที่ส่งผลให้ผลไม้มีราคาสูงนั้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากความเอาใจใส่ดูแลของเจ้าของสวน รสชาติความอร่อยที่แปลกใหม่ รวมถึงมีจำนวนที่จำกัด อย่างผลไม้บางชนิด ก็เป็นผลไม้ตามฤดูกาล อย่างแตงโม เมล่อน (ผลไม้ประจำฤดูร้อน) สตรอว์เบอร์รี่ และ แอปเปิ้ล และเนื่องจากผลไม้เหล่านี้ ไม่สามารถออกผลให้ทานได้ตลอดปี จึงทำให้ราคาอาจพุ่งขึ้นสูง ตามความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งในญี่ปุ่น ผลไม้ถือเป็นของขวัญระดับไฮคลาส ที่มักจะใช้แสดงคำขอบคุณแก่บรรดาเครือญาติหรือผู้ร่วมธุรกิจ ชาวสวนญี่ปุ่นจึงมักปลูกผลไม้ดีๆ เพื่อทำกำไรจากวัฒนธรรมเหล่านี้ วันนี้ vauro จะพาทุกท่านมารู้จักกับผลไม้ราคาแพงว่ามีอะไรบ้างมาอ่านกันค่ะ
(Buddha Shaped Pears) แพร์ทรงพระพุทธรูป
ราคาอยู่ที่ประมาณ สองร้อยเก้าสิบบาทต่อผล แพร์เป็นผลไม้เมืองหนาวในสกุลสาลี่ มีถิ่นกําเนิดในยุโรปเป็นไม้ยืนต้น ใบรูปไข่ ผิวใบเรียบ มีขนาดผลใกล้เคียงกับแอปเปิ้ล เปลือกบาง เมื่อสุกแล้วเนื้อจะนิ่มมาก มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว และหวานหอม เป็นเพื่อนคนละสปีชชี่กับสาลี่และที่สําคัญคือแพร์มีหลากหลายพันธุ์ แพร์ทรงพระพุทธรูปเกิดจากเกษตรกรชาวจีนมองเห็นความต้องการของตลาด ในแง่สินค้ามงคลจึกปลูกลูกแพร์และเคยเป็นรูปเจ้าแม่กวนอิม พระพุทธรูปและรูปร่างมงคลต่างๆ ซึ่งความจริงแล้วลูกแพรก็เป็นลูกแพรปกติ แต่ตอนที่ปลูกมีการเอาเข้าบล็อกหรือแม่พิมพ์ ให้ออกมาเป็นรูปร่างแบบต่างๆ ซึ่งทํารายได้อย่างมากมายต่างกับแพร์ปกติไม่ได้มีขายแค่ในจีนแต่ยังส่งออกไปขายนอกจีนอีกด้วย อย่างที่ประเทศเวียดนามจะขายดีมากในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยผู้ที่ผลิตเอามาขายก็คงรู้ถึงจุดนี้อย่างดี จึงตั้งใจทํารูปร่างเพื่อสื่อถึงความเป็นสิริมงคล ความโชคดีให้เหมาะแก่การส่งให้การเป็นของขวัญของฝากนั่นเอง
(Sekai Ichi Apple) แอปเปิ้ลเซไกอิจิ
ราคาอยู่ที่ประมาณ สี่ร้อยสี่สิบบาทต่อผล แอปเปิ้ลสายพันธุ์เซกาเอจิแปลได้ว่าที่หนึ่งในโลก เป็นแอปเปิ้ลที่เกิดจากการผสมระหว่างแอปเปิ้ลสองสายพันธุ์ Golden Delicious กับ Red Delicious เพาะเลี้ยงโดยห้องทดลองที่จังหวัดอาโอโมริ ต่อมามีการประกาศให้เป็นที่รู้จักในปี ค.ศ. หนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบสี่ ลักษณะผลมีขนาดใหญ่ เนื้อของแอปเปิ้ลให้รสสัมผัสที่กรอบ ฉ่ำน้ำ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว เริ่มวางขายในช่วงต้นเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ราคาต่อลูกค่อนข้างแพงโดยเริ่มต้นที่ราคาลูกละสามร้อยหกสิบบาทและราคาอาจสูงจนถึงห้าพันบาทเลย
(Dekopon Citrus) ส้มเดโกปอง
ราคาอยู่ที่ประมาณ สองพันเก้าร้อยบาทต่อแพ็ก ส้มเดโกปองหรือส้มจุกมีถิ่นกําเนิดจากประเทศญี่ปุ่น เป็นผลไม้ชื่อดังจากเมืองคูมาโมโต้ เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างส้มแมนดารินกับส้มเขียวหวาน จากนั้นเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ก็ได้ปรับปรุงพันธุ์อยู่เป็นเวลานานและหลายวิธีก่อนนําเอาต้นกล้าที่ได้ไปปลูกและเลี้ยงจนโต มีดอกและติดผล ซึ่งผลมีขนาดใหญ่มากน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งกิโลกรัมต่อผล มีรูปร่างไม่สวยงามเหมือนส้มอื่นๆทั่วไป แต่ไร้เมล็ด โดยลักษณะผิวนั้นจะเหมือนกับผิวมะกรูดหรือผิวของน้อยหน่า แต่เปลือกส้มเดโกปองจะแกะง่ายกว่ามาก เนื้อในรสชาติหวานจัด วัดความหวานได้มากกว่าสิบสามองศาบริคซ์และถูกนําผลออกมาขายครั้งแรกที่มางาซากิประมาณปี ค.ศ.หนึ่งพันเก้าร้อยเจ็ดสิบสองจากนั้นก็ได้กระจายพันธุ์และปลูกไปทั่วโลก
(Sembikiya Queen Strawberries) สตอเบอรี่ เชมบีกียะ
ราคาอยู่ที่ประมาณ สามพันบาทต่อแพ็ก เชมบีกียะ ควีน สตรอว์เบอร์รี เป็นสตรอเบอรี่ที่ได้รับการตั้งชื่อตามร้านขายผลไม้ที่มีชื่อเสียงในโตเกียวอย่างเชมบีกียะที่ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.หนึ่งพันแปดร้อยสามสิบสี่ เชนบีกียะเป็นร้านขายผลไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยผลไม้ก็เป็นแบบคุณภาพดีที่ส่งตรงจากทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น ปัจจุบันมีร้านค้าสิบสี่แห่งและหลายแห่งก็อยู่ในโตเกียว อย่างในผลไม้ที่เป็นที่นิยมก็คือสตรอเบอรี มีรสหวานฉ่ำ มีเฉพาะบางช่วงฤดูเท่านั้นและเป็นผลไม้ที่คนนิยมซื้อเป็นของฝากกันมาก ซึ่งในหนึ่งแพ็คจะมีสิบสองชิ้นขายกันในราคาประมาณสามพันบาท
สนับสนุนการจัดทำโดย ufa911